Christmas gifts:

การทำหมันหญิง

การทำหมันหญิง

          การทำหมันหญิงมีการพัฒนาการหลายขั้นตอน และมีการทำผ่าตัดได้หลายแบบ  ในประเทศไทยมีการทำหมันหญิงมากกว่าหมันชายถึง 6-7 เท่า ทั้งๆที่หมันชายทำได้ง่ายและถูกกว่า


ปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ชนิด

          1.การทำหมันหญิงหลังคลอด
          2.การทำหมันหญิงในช่วงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ เป็นการทำหมันในรอบระดูปกติ ในประเทศไทยเรียกว่า หมันแห้ง มีการทำ 2 วิธี คือ วิธีผ่าตัดแผลเล็กบริเวณหัวหน่าว และการทำหมันด้วยกล้องส่องในช่องท้อง



การทำหมันหญิงหลังคลอด

          เป็นหมันหญิงที่นิยมทำมากที่สุด เนื่องจากทำ
Read More

0 ความคิดเห็น:

การทำหมันชาย

การทำหมันชาย

          ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคนิคจนเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ทำได้ง่าย ปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงมาก ไม่จำเป็นต้องทำในห้องผ่าตัด สามารถทำได้แบบการผ่าตัดเล็ก ไม่ต้องดมยาสลบไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่ต้องหยุดงานพักฟื้น


Read More

0 ความคิดเห็น:

วิธีคุมกำเนิดถาวร

วิธีการคุมกำเนิดแบบถาวร

          วิธีการคุมกำเนิดถาวร หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การผ่าตัดทำหมันเป็นวิธีการคุมกำเนิดถาวรด้วยการใช้เครื่องมือผ่าตัด และต้องถือว่าไม่สามารถกลับมามีบุตรได้อีก ดังนั้นคู่สมรสจะต้องแน่ใจว่าไม่ต้องการมีบุตรอีก จึงจะขอรับการผ่าตัดทำหมัน ในกรณียังไม่แน่ใจสามารถเลือกวิธีการคุมกำเนิดชั่วคราวที่มีให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีคุมกำเนิดระยะยาว เช่น ยาฝังคุมกำเนิดและห่วงอนามัย 

          - หมันชาย  ทำได้ง่ายกว่าหมันหญิงและเป็นทางเลือกที่ดีกว่า สำหรับคู่สมรสที่ต้องการคุมกำเนิดถาวร
          -คู่สมรส จำเป็นต้องได้รับการให้คำปรึกษาแนะนำอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจทำหมันและต้องมีสภาพจิตใจที่พร้อมจะตัดสินใจเลือกด้วยตัวเอง ด้วยความสมัครใจ

          การทำหมัน เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด มีอัตราตั้งครรภ์ 0.2 -0.4 ต่อสตรี 100 คนต่อปีในหมันหญิง และ 0.1-0.15 ต่อสตรี 100 คนต่อปี ในหมันชาย    

          ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นต้องแก้หมัน เช่น แต่งงานใหม่ สามีหรือบุตร เสียชีวิต ก็สามารถแก้หมันได้ แต่การผ่าตัดต่อท่ออสุจิหรือท่อนำไข่ ทำได้ยากได้ผลประมาณ 70% และบางรายก็ทำไม่ได้

Read More

0 ความคิดเห็น:

วิธีการหลั่งข้างนอก

การหลั้่งข้างนอก

          เป็นวิธีคุมกำเนิดไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์โดยที่ฝ่ายชายถอนอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดก่อนที่จะหลั่งน้ำอสุจิ ( Ejaculation) และให้หลั่งน้ำอสุจิห่างจากบริเวณช่องคลอดเพื่อไม่ให้ตัวอสุจิผ่านเข้าไปในมดลูกได้ เชื่อกันว่าแม้แต่ในปัจจุบัน คู่สมรสจำนวนมากใช้วิธีนี้ อย่างน้อยช่วงเวลาหนึ่ง 
         
           แม้แต่ในประเทศไทยก็มีผู้เคยประเมินว่าอย่างน้อย ร้อยละ 4 ของคู่สมรสเคยใช้วิธีนี้ วิธีนี้ต้องการความร่วมมือจากคู่สมรสโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายชาย ที่จะต้องบังคับใจตัวเองให้ถอดอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดก่อนที่จะหลั่ง ทั้งๆที่ในเวลานั้นเป็นเวลาที่ฝ่ายชายกำลังจะบรรลุจุดสุดยอด ( Orgasm ) และต้องการที่จะสอกใส่ให้ลึกกว่าเดิม ส่วนฝ่ายหญิงก็สูญเสียโอกาสที่จะได้รับความรู้สึกของการฉีดน้ำเชื้อ และการหดตัวของอวัยวะเพศชาย

          ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ ปัญหาที่พบคือ ฝ่ายชายไม่สามารถถอนอวัยวะเพศออกมาได้ทันเวลา และในระยะที่มีการเล้าโลม (foreplay ) ฝ่ายชายอาจมีน้ำเมือก ( forewater ) จากต่อมเคาเปอร์ ออกมาโดยที่ยังไม่ต้องถึงจุดสุดยอด ซึ่งในน้ำนี้พบว่ามีอสุจิได้ จึงสามารถเกิดการตั้งครรภ์ได้ถึงแม้จะไม่ได้หลั่งในช่องคลอด ในการปฏิบัติจริงพบอัตราตั้งครรภ์ถึง 27 ต่อสตรี 100 คนต่อปี  อย่างไรก็ตามวิธีนี้ได้มีการปฏิบัติได้ผลดีในบางคู่สมรส


หน่วยอนามัยการเจริญพันธุ์และงานวางแผนครอบครัว
ภาควิชาสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา
คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล

 02-4113011   02-4194736-7

0 ความคิดเห็น:

ถุงยางอนามัยชาย

ถุงยางอนามัยชาย ( male condom )
     
          ถุงยางอนามัยชายเป็นวิธีคุมกำเนิดเดียวที่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ได้ด้วย เรียกว่า ป้องกันแบบทวิ( dual protection )ปัจจุบันถุงยางอนามัยชายทำ latex rubber มีความบางมากและให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ล่าสุดมีการใช้สาร polyurethrane ซึ่งคงทน latex มาทำถุงยางอนามัย
         
          ถุงยางอนามัยชายที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ที่นิยมจะมีก้นถุงเป็นกระเปาะเพื่อเก็บน้ำอสุจิ และไม่มียาฆ่าอสุจิ เคลือบ

          ขนาดของถุงยางอนามัย โดยทั่วไปถุงยางอนามัยที่จำหน่ายในประเทศไทยเป็นขนาดซึ่งเหมาะสำหรับคนเอเชีย มีความกว้าง 49 มม.และยาว 160 มม.ส่วนถุงยางอนามัยขนาดใหญ่มีความกว้าง 52 มม.และยาว 180 มม.


Read More

0 ความคิดเห็น:

ห่วงอนามัยคุมกำเนิด

ห่วงอนามัยคุมกำเนิด

          เดิมห่วงอนามัยไม่มีสารหรือตัวยาที่จะช่วยออกฤทธิ์ในการคุมกำเนิด ต่อมาในช่วงทศวรรษที่ 70 มีการพัฒนาเอาสารออกฤทธิ์ช่วยคุมกำเนิดใส่ไว้ในห่วงอนามัย ได้อก่ ทองแดง และฮอร์โมนโปรเจสติน

กลไกการคุมกำเนิด     
       
          ห่วงอนามัยไม่ได้ยับยั้งการตกไข่ ดังนั้นหญิงผู้ใช้จะมีรอบเดือนเป็นธรรมชาติ ตัวห่วงอนามัยซึ่งอยู่ในโพรงมดลูกสามารถป้องกันได้โดย

          1.ป้องกันไม่ให้อสุจิผ่านเข้าไปผสมกับไข่ได้ เนื่องจากสารออกฤทธิ์ เช่น ทองแดงทำปฏิกิริยากับเยื่อบุโพรงมดลูก  เกิดเป็นการอักเสบเฉพาะที่ ซึ่งจะมีการหลั่งสารต่างๆรวมทั้งมีการชุมนุมของเซลล์เม็ดเลือดขาว ทั้งหมดทำให้อสุจิถูกทำลาย หรือคุณภาพด้อยลงมาก
          2.มีกระบวนการรบกวนการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว


Read More

0 ความคิดเห็น:

ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดโปรเจสตินอย่างเดียว

ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดโปรเจสตินอย่างเดียว

          ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดโปรเจสตินอย่างเดียว  ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในกรณีที่ต้องการกินยาเม็ดคุมกำเนิดโดยไม่ต้องการได้รับเอสโตรเจน เช่น ในกรณีหลังคลอดที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และหญิงที่มีอาการข้างเคียงของเอสโตรเจนมาก เช่น คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น

กลไกการคุมกำเนิด

     1.ฤทธิ์การยับยั้งการตกไข่  ยารุ่นเก่ายับยั้งการตกไข่ได้เพียงร้อยละ 50 ของจำนวนรอบที่ใช้ แต่ยารุ่นใหม่ยับยั้งการตกไข่เกือบร้อยละ 97
     2.ทำให้มูกมดลูกเหนียวข้น แต่ไม่สามารถกดการทำงานให้เยื่อบุโพรงมดลูกฝ่อได้เหมือนกับยาฉีดชนิด 3 เดือน และยาฝังคุมกำเนิด


Read More

0 ความคิดเห็น:

ยาฝังคุมกำเนิด

ยาฝังคุมกำเนิด

          ยาฝังคุมกำเนิดเป็นการคุมกำเนิดโดยฝังหลอดยาไว้ใต้ผิวหนังบริเวณต้นแขนด้านใน ฝังให้ตื้นคลำได้ ทำให้เอาออกง่ายเมื่อครบกำหนด
          ระยะใช้งาน 3-5 ปี แล้วแต่ชนิด ตัวยาซึมผ่านเข้ากระแสเลือด มีความแน่นอนสม่ำเสมอมากกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดและยาฉีดคุมกำเนิด สะดวกต่อผู้ใช้เป็นอย่างมาก

       
  ยาฝังคุมกำเนิดที่มีในประเทศไทยในปัจจุบัน ได้แก่
          1.ยาฝังคุมกำเนิดชนิด 6 หลอด ชื่อ Norplant ใช้นาน 5 ปี
          2.ยาฝังคุมกำเนิดชนิด 2 หลอด ชื่อ Jadelle ใช้นาน 5 ปี
          3.ยาฝังคุมกำเนิดชนิด 1 หลอด ชื่อ Implanon ใช้นาน 3 ปี

ยาฝังคุมกำเนิดตัวแรกที่ประเทศไทยนำมาใช้ในโครงการวางแผนครอบครัวพ.ศ. 2529 เป็นยาฝังคุมกำเนิดชนิด 6 หลอด


Read More

0 ความคิดเห็น:

ยาฉีดคุมกำเนิดชนิด 1 เดือน

ยาฉีดคุมกำเนิดชนิด 1 เดือน

          เป็นวิธีคุมกำเนิดที่พัฒนาเพื่อกำจัดข้อด้อยของยาฉีดคุมกำเนิด 3  เดือน ( DMPA ) โดยมีการพัฒนาและวิจัยมาตั่งแต่พ.ศ. 2523 เป็นยาฉีดคุมกำเนิดที่ใช้งายและมีเลือดประจำเดือนมาสม่ำเสมอเหมือนกับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมหรือแผ่นแปะคุมกำเนิด


วิธีใช้

          ฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อภายในวันที่ 1-5 ของรอบเดือน เดือนละครั้ง ส่วนใหญ่รอบเดือนมาเป็นรอบดีกว่า DMPA แต่ไม่ดีเท่านาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
Read More

0 ความคิดเห็น:

ยาฉีดคุมกำเนิดชนิด 3 เดือน

ยาฉีดคุมกำเนิดชนิด 3 เดือน

          ยาฉีดคุมกำเนิดชนิด 3 เดือนเป็นโปรเจสตินสังเคราะห์ถูกนำมาใช้ในโครงการวางแผนครอบครัวในประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2518 ได้รับความนิยมอย่างมาก รองจากยาเม็ดคุมกำเนิด 
ข้อดีคือใช้ง่าย ไม่ต้องพบแพทย์บ่อย อาการข้างเคียงน้อย และไม่จุกจิก คือ ฉีด  1  เข็มใช้คุมกำเนิดได้นาน  12  สัปดาห์  เพื่อความแน่นอนในการคุมกำเนิดจึงให้ฉีดทุก  84  วัน หรือทุก  12  สัปดาห์ และให้เลยได้ไม่เกิน  7  วัน 

กลไกการคุมกำเนิด
          1.ยับยั้งการตกไข่ ทำให้ไม่มีไข่ตกในแต่ละเดือน ดังนั้นการฉีดยาคุมกำเนิดควรฉีดภายในขณะมีประจำเดือนและงดเพศสัมพันธ์หลังฉีดฯ 7 วัน เพื่อที่ฮอร์โมนจะยับยั้งการตกไข่ทั้งหมดได้
          2.มูกปากมดลูกเหนียวข้นและการเคลื่อนไหวของท่อนำไข่ช้าลง
          3.ทำให้มดลูกและเยื่อบุโพรงมดลูกฝ่อตัวได้

ประสิทธิภาพ

          ยาฉีดคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพสูงทำนองเดียวกับยาเม็ดคุมกำเนิด



Read More

0 ความคิดเห็น:

แผ่นแปะคุมกำเนิด

แผ่นแปะคุมกำเนิด

          เป็นแผ่นยาบางๆลักษณะคล้านกอเอี๊ยะปิดผิวหนัง เป็นวิธีคุมกำเนิดรุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นในสหรัฐอเมริกา แผ่นแปะคุมกำเนิดวางตลาดครั้งแรกในสหรัฐอเมิรกาใน พ.ศ. 2545 เป็นวิธีคุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมนรวม คล้ายกับยาเม็ดคุมกำเนิด แต่ใช้แปะบนผิวหนังแทนการกิน 
          แผ่นแปะคุมกำเนิด 1 กล่อง มีแผ่นยา 3 แผ่นให้แปะผิวหนัง 1 แผ่นต่อ 1 สัปดาห์ แล้วเว้น 1 สัปดาห์ไม่ต้องแปะยา จะมีเลือดมาในช่วงสัปดาห์ที่เว้นไม่แปะยา

วิธีใช้

          สามารถแปะแผ่นยาได้ทุกส่วนของร่างกายยกเว้น เต้านม ตำแหน่งที่นิยมได้แก่ หัวไหล่ด้านหน้า ด้านหลังส่วนสะบัก ท้องน้อยด้านซ้ายหรือขวา และแก้มก้นส่วนบน เริ่มแปะแผ่นแรกไม่เกินวันที่ 1-5  ของระดูเช่นเดียวกับการกินยาเม็ดคุมกำเนิด แปะสัปดาห์ละ 1 แผ่น เมื่อแกะแผ่นเก่าออกจะแปะแผ่นใหม่ที่ตำแหน่งใหม่ หรือตำแหน่งเดิมก็ได้ หลังจากแปะยาครบ 3 สัปดาห์ให้เว้น 1 สัปดาห์ ซึ่งในช่วงที่เว้นนี้จะมีเลือดออกทำนองเดียวกับระดู ดังนั้นถ้าใช้อย่างสม่ำเสมอก็จะมีรอบเดือนมาทุกๆ 28 วัน
          แผ่นแปะติดแน่นมาก อาบน้ำได้ ว่ายน้ำหรืออบซาวน่าได้ ไม่ลอกหลุด เมื่อเกิน 1 สัปดาห์ถ้าลืมเปลี่ยนแผ่น ระดับฮอร์โมนในกระแสเลือดยังคงคุมกำเนิดได้ต่ออีก 3-4 วัน

Read More

0 ความคิดเห็น:

ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม

ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม

          เป็นวิธีคุมกำเนิดในฝ่ายหญิงที่มีผู้นิยมใช้มากที่สุดในโลก มีรอบประจำเดือนมาสม่ำเสมอ เลือดออกไม่มากหรือประมาณ 3 วัน ไม่มีอาการปวดประจำเดือน ในยาแต่ละเม็ดประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน



กลไกการคุมกำเนิด

          1.ยับยั้งการตกไข่

          2.เปลี่ยนสภาพมูกปากมดลูกให้เหนียวข้น ไม่เหมาะให้อสุจิผ่าน
          3.ปรับสภาพเยื่อบุโพรงมดลูกให้บางตัว ไม่เหมาะกับการฝังตัวของตัวอ่อน และเยื่อบุโพรงมดลูกที่บางกว่ารอบเดือนปกติ จึงทำให้ประจำเดือนมีน้อยวันลง เลือดก็น้อยลงด้วย

วิธีกินยา

          1. เริ่มกินยาเม็ดแรกที่เป็นฮอร์โมนในสันที่ 1-5 ของรอบประจำเดือน

          2. กินยาวันละ 1 เม็ด ให้ตรงเวลาเดิมทุกวัน
          3. กินยาทุกเม็ด
 
Read More

0 ความคิดเห็น:

การคุมกำเนิด


การคุมกำเนิด

รศ.พญ.อรวรรณ  คีรีวัฒน์


การคุมกำเนิด หมายถึง การป้องกันการเกิดหรือการปฏิสนธิ หรือการตั้งครรภ์ สรุป คือ ป้องกันหรือขัดขวางไม่ให้อสุจิในน้ำเชื้อของฝ่ายชายได้มีโอกาสเข้าไปผสมกับไข่มี่สุกของฝ่ายหญิง ภายในปีกมดลูกและป้องกันไข่ที่ผสมแล้วมาฝังตัวที่เยื่อโพรงมดลูก


ข้อมูลจริงเท่าที่พบเกี่ยวกับการใช้คุมกำเนิด

     1.คู่สมรสที่มีสุขภาพแข็งแรง สามารถเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดต่างๆได้อย่างปลอดภัย แต่ประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดขึ้นอยู่กับการใช้อย่างถูกต้องด้วย
     2.ความล้มเหลวของการใช้วิธีการคุมกำเนิด ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้วิธีนั้นอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งมีผลให้เกิดการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผนไว้ในชีวิต ( unplanned หรือ unintended pregnancy )
     3.การใช้วิธีการคุมกำเนิดอย่างไม่ถูกต้องหรือเลิกใช้ ส่วนใหญ่เนื่องจากขาดคำแนะนำที่ดีพอตั้งแต่แรกใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำแนะนำเกี่ยวกับอาการข้างเคียงของวิธีคุมกำเนิดนั้นๆด้วย
     4.ถึงจะใช้ได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน ก็อาจมีการล้มเหลวได้บ้าง เนื่องจากไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดๆที่ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100 %

Read More

0 ความคิดเห็น: