02-4194736-7
0
โทร.สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
หน่วยวางแผนครอบครัว
ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
โรงพยาบาลศิริราช
คุณสริญญา สุขะมงคล
คุณกรรณิการ์ เชิดชูงาม
02-4194736-7
02-4113011
Read More
โครงการอบรมความรู้ก่อนสมรส
เขียนโดย
Sarin S
19:49
หน่วยวางแผนครอบครัว
ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
โรงพยาบาลศิริราช
คุณสริญญา สุขะมงคล
คุณกรรณิการ์ เชิดชูงาม
02-4194736-7
02-4113011
Read More
0
การทำหมันหญิง
เขียนโดย
Sarin S
06:54
การทำหมันหญิง
การทำหมันหญิงมีการพัฒนาการหลายขั้นตอน และมีการทำผ่าตัดได้หลายแบบ ในประเทศไทยมีการทำหมันหญิงมากกว่าหมันชายถึง 6-7 เท่า ทั้งๆที่หมันชายทำได้ง่ายและถูกกว่า
ปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ชนิด
1.การทำหมันหญิงหลังคลอด
2.การทำหมันหญิงในช่วงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ เป็นการทำหมันในรอบระดูปกติ ในประเทศไทยเรียกว่า หมันแห้ง มีการทำ 2 วิธี คือ วิธีผ่าตัดแผลเล็กบริเวณหัวหน่าว และการทำหมันด้วยกล้องส่องในช่องท้อง
การทำหมันหญิงหลังคลอด
เป็นหมันหญิงที่นิยมทำมากที่สุด เนื่องจากทำ
Read More
การทำหมันหญิงมีการพัฒนาการหลายขั้นตอน และมีการทำผ่าตัดได้หลายแบบ ในประเทศไทยมีการทำหมันหญิงมากกว่าหมันชายถึง 6-7 เท่า ทั้งๆที่หมันชายทำได้ง่ายและถูกกว่า
ปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ชนิด
1.การทำหมันหญิงหลังคลอด
2.การทำหมันหญิงในช่วงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ เป็นการทำหมันในรอบระดูปกติ ในประเทศไทยเรียกว่า หมันแห้ง มีการทำ 2 วิธี คือ วิธีผ่าตัดแผลเล็กบริเวณหัวหน่าว และการทำหมันด้วยกล้องส่องในช่องท้อง
การทำหมันหญิงหลังคลอด
เป็นหมันหญิงที่นิยมทำมากที่สุด เนื่องจากทำ
Read More
0
การทำหมันชาย
เขียนโดย
Sarin S
00:25
การทำหมันชาย
ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคนิคจนเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ทำได้ง่าย ปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงมาก ไม่จำเป็นต้องทำในห้องผ่าตัด สามารถทำได้แบบการผ่าตัดเล็ก ไม่ต้องดมยาสลบไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่ต้องหยุดงานพักฟื้น
Read More
ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคนิคจนเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ทำได้ง่าย ปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงมาก ไม่จำเป็นต้องทำในห้องผ่าตัด สามารถทำได้แบบการผ่าตัดเล็ก ไม่ต้องดมยาสลบไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่ต้องหยุดงานพักฟื้น
Read More
0
วิธีคุมกำเนิดถาวร
เขียนโดย
Sarin S
07:50
วิธีการคุมกำเนิดแบบถาวร
วิธีการคุมกำเนิดถาวร หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การผ่าตัดทำหมันเป็นวิธีการคุมกำเนิดถาวรด้วยการใช้เครื่องมือผ่าตัด และต้องถือว่าไม่สามารถกลับมามีบุตรได้อีก ดังนั้นคู่สมรสจะต้องแน่ใจว่าไม่ต้องการมีบุตรอีก จึงจะขอรับการผ่าตัดทำหมัน ในกรณียังไม่แน่ใจสามารถเลือกวิธีการคุมกำเนิดชั่วคราวที่มีให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีคุมกำเนิดระยะยาว เช่น ยาฝังคุมกำเนิดและห่วงอนามัย
- หมันชาย ทำได้ง่ายกว่าหมันหญิงและเป็นทางเลือกที่ดีกว่า สำหรับคู่สมรสที่ต้องการคุมกำเนิดถาวร
-คู่สมรส จำเป็นต้องได้รับการให้คำปรึกษาแนะนำอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจทำหมันและต้องมีสภาพจิตใจที่พร้อมจะตัดสินใจเลือกด้วยตัวเอง ด้วยความสมัครใจ
การทำหมัน เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด มีอัตราตั้งครรภ์ 0.2 -0.4 ต่อสตรี 100 คนต่อปีในหมันหญิง และ 0.1-0.15 ต่อสตรี 100 คนต่อปี ในหมันชาย
ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นต้องแก้หมัน เช่น แต่งงานใหม่ สามีหรือบุตร เสียชีวิต ก็สามารถแก้หมันได้ แต่การผ่าตัดต่อท่ออสุจิหรือท่อนำไข่ ทำได้ยากได้ผลประมาณ 70% และบางรายก็ทำไม่ได้
Read More
วิธีการคุมกำเนิดถาวร หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การผ่าตัดทำหมันเป็นวิธีการคุมกำเนิดถาวรด้วยการใช้เครื่องมือผ่าตัด และต้องถือว่าไม่สามารถกลับมามีบุตรได้อีก ดังนั้นคู่สมรสจะต้องแน่ใจว่าไม่ต้องการมีบุตรอีก จึงจะขอรับการผ่าตัดทำหมัน ในกรณียังไม่แน่ใจสามารถเลือกวิธีการคุมกำเนิดชั่วคราวที่มีให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีคุมกำเนิดระยะยาว เช่น ยาฝังคุมกำเนิดและห่วงอนามัย
- หมันชาย ทำได้ง่ายกว่าหมันหญิงและเป็นทางเลือกที่ดีกว่า สำหรับคู่สมรสที่ต้องการคุมกำเนิดถาวร
-คู่สมรส จำเป็นต้องได้รับการให้คำปรึกษาแนะนำอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจทำหมันและต้องมีสภาพจิตใจที่พร้อมจะตัดสินใจเลือกด้วยตัวเอง ด้วยความสมัครใจ
การทำหมัน เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด มีอัตราตั้งครรภ์ 0.2 -0.4 ต่อสตรี 100 คนต่อปีในหมันหญิง และ 0.1-0.15 ต่อสตรี 100 คนต่อปี ในหมันชาย
ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นต้องแก้หมัน เช่น แต่งงานใหม่ สามีหรือบุตร เสียชีวิต ก็สามารถแก้หมันได้ แต่การผ่าตัดต่อท่ออสุจิหรือท่อนำไข่ ทำได้ยากได้ผลประมาณ 70% และบางรายก็ทำไม่ได้
Read More
0
วิธีการหลั่งข้างนอก
เขียนโดย
Sarin S
06:48
การหลั้่งข้างนอก
เป็นวิธีคุมกำเนิดไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์โดยที่ฝ่ายชายถอนอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดก่อนที่จะหลั่งน้ำอสุจิ ( Ejaculation) และให้หลั่งน้ำอสุจิห่างจากบริเวณช่องคลอดเพื่อไม่ให้ตัวอสุจิผ่านเข้าไปในมดลูกได้ เชื่อกันว่าแม้แต่ในปัจจุบัน คู่สมรสจำนวนมากใช้วิธีนี้ อย่างน้อยช่วงเวลาหนึ่ง
แม้แต่ในประเทศไทยก็มีผู้เคยประเมินว่าอย่างน้อย ร้อยละ 4 ของคู่สมรสเคยใช้วิธีนี้ วิธีนี้ต้องการความร่วมมือจากคู่สมรสโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายชาย ที่จะต้องบังคับใจตัวเองให้ถอดอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดก่อนที่จะหลั่ง ทั้งๆที่ในเวลานั้นเป็นเวลาที่ฝ่ายชายกำลังจะบรรลุจุดสุดยอด ( Orgasm ) และต้องการที่จะสอกใส่ให้ลึกกว่าเดิม ส่วนฝ่ายหญิงก็สูญเสียโอกาสที่จะได้รับความรู้สึกของการฉีดน้ำเชื้อ และการหดตัวของอวัยวะเพศชาย
ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ ปัญหาที่พบคือ ฝ่ายชายไม่สามารถถอนอวัยวะเพศออกมาได้ทันเวลา และในระยะที่มีการเล้าโลม (foreplay ) ฝ่ายชายอาจมีน้ำเมือก ( forewater ) จากต่อมเคาเปอร์ ออกมาโดยที่ยังไม่ต้องถึงจุดสุดยอด ซึ่งในน้ำนี้พบว่ามีอสุจิได้ จึงสามารถเกิดการตั้งครรภ์ได้ถึงแม้จะไม่ได้หลั่งในช่องคลอด ในการปฏิบัติจริงพบอัตราตั้งครรภ์ถึง 27 ต่อสตรี 100 คนต่อปี อย่างไรก็ตามวิธีนี้ได้มีการปฏิบัติได้ผลดีในบางคู่สมรส
หน่วยอนามัยการเจริญพันธุ์และงานวางแผนครอบครัว
ภาควิชาสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา
คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล
02-4113011 02-4194736-7 Read More
เป็นวิธีคุมกำเนิดไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์โดยที่ฝ่ายชายถอนอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดก่อนที่จะหลั่งน้ำอสุจิ ( Ejaculation) และให้หลั่งน้ำอสุจิห่างจากบริเวณช่องคลอดเพื่อไม่ให้ตัวอสุจิผ่านเข้าไปในมดลูกได้ เชื่อกันว่าแม้แต่ในปัจจุบัน คู่สมรสจำนวนมากใช้วิธีนี้ อย่างน้อยช่วงเวลาหนึ่ง
แม้แต่ในประเทศไทยก็มีผู้เคยประเมินว่าอย่างน้อย ร้อยละ 4 ของคู่สมรสเคยใช้วิธีนี้ วิธีนี้ต้องการความร่วมมือจากคู่สมรสโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายชาย ที่จะต้องบังคับใจตัวเองให้ถอดอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดก่อนที่จะหลั่ง ทั้งๆที่ในเวลานั้นเป็นเวลาที่ฝ่ายชายกำลังจะบรรลุจุดสุดยอด ( Orgasm ) และต้องการที่จะสอกใส่ให้ลึกกว่าเดิม ส่วนฝ่ายหญิงก็สูญเสียโอกาสที่จะได้รับความรู้สึกของการฉีดน้ำเชื้อ และการหดตัวของอวัยวะเพศชาย
ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ ปัญหาที่พบคือ ฝ่ายชายไม่สามารถถอนอวัยวะเพศออกมาได้ทันเวลา และในระยะที่มีการเล้าโลม (foreplay ) ฝ่ายชายอาจมีน้ำเมือก ( forewater ) จากต่อมเคาเปอร์ ออกมาโดยที่ยังไม่ต้องถึงจุดสุดยอด ซึ่งในน้ำนี้พบว่ามีอสุจิได้ จึงสามารถเกิดการตั้งครรภ์ได้ถึงแม้จะไม่ได้หลั่งในช่องคลอด ในการปฏิบัติจริงพบอัตราตั้งครรภ์ถึง 27 ต่อสตรี 100 คนต่อปี อย่างไรก็ตามวิธีนี้ได้มีการปฏิบัติได้ผลดีในบางคู่สมรส
หน่วยอนามัยการเจริญพันธุ์และงานวางแผนครอบครัว
ภาควิชาสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา
คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล
02-4113011 02-4194736-7 Read More
0
ถุงยางอนามัยชาย
เขียนโดย
Sarin S
21:18
ถุงยางอนามัยชาย ( male condom )
ถุงยางอนามัยชายเป็นวิธีคุมกำเนิดเดียวที่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ได้ด้วย เรียกว่า ป้องกันแบบทวิ( dual protection )ปัจจุบันถุงยางอนามัยชายทำ latex rubber มีความบางมากและให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ล่าสุดมีการใช้สาร polyurethrane ซึ่งคงทน latex มาทำถุงยางอนามัย
ถุงยางอนามัยชายที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ที่นิยมจะมีก้นถุงเป็นกระเปาะเพื่อเก็บน้ำอสุจิ และไม่มียาฆ่าอสุจิ เคลือบ
ขนาดของถุงยางอนามัย โดยทั่วไปถุงยางอนามัยที่จำหน่ายในประเทศไทยเป็นขนาดซึ่งเหมาะสำหรับคนเอเชีย มีความกว้าง 49 มม.และยาว 160 มม.ส่วนถุงยางอนามัยขนาดใหญ่มีความกว้าง 52 มม.และยาว 180 มม.
Read More
ถุงยางอนามัยชายเป็นวิธีคุมกำเนิดเดียวที่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ได้ด้วย เรียกว่า ป้องกันแบบทวิ( dual protection )ปัจจุบันถุงยางอนามัยชายทำ latex rubber มีความบางมากและให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ล่าสุดมีการใช้สาร polyurethrane ซึ่งคงทน latex มาทำถุงยางอนามัย
ถุงยางอนามัยชายที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ที่นิยมจะมีก้นถุงเป็นกระเปาะเพื่อเก็บน้ำอสุจิ และไม่มียาฆ่าอสุจิ เคลือบ
ขนาดของถุงยางอนามัย โดยทั่วไปถุงยางอนามัยที่จำหน่ายในประเทศไทยเป็นขนาดซึ่งเหมาะสำหรับคนเอเชีย มีความกว้าง 49 มม.และยาว 160 มม.ส่วนถุงยางอนามัยขนาดใหญ่มีความกว้าง 52 มม.และยาว 180 มม.
Read More
0
ห่วงอนามัยคุมกำเนิด
เขียนโดย
Sarin S
00:56
ห่วงอนามัยคุมกำเนิด
เดิมห่วงอนามัยไม่มีสารหรือตัวยาที่จะช่วยออกฤทธิ์ในการคุมกำเนิด ต่อมาในช่วงทศวรรษที่ 70 มีการพัฒนาเอาสารออกฤทธิ์ช่วยคุมกำเนิดใส่ไว้ในห่วงอนามัย ได้อก่ ทองแดง และฮอร์โมนโปรเจสติน
กลไกการคุมกำเนิด
ห่วงอนามัยไม่ได้ยับยั้งการตกไข่ ดังนั้นหญิงผู้ใช้จะมีรอบเดือนเป็นธรรมชาติ ตัวห่วงอนามัยซึ่งอยู่ในโพรงมดลูกสามารถป้องกันได้โดย
1.ป้องกันไม่ให้อสุจิผ่านเข้าไปผสมกับไข่ได้ เนื่องจากสารออกฤทธิ์ เช่น ทองแดงทำปฏิกิริยากับเยื่อบุโพรงมดลูก เกิดเป็นการอักเสบเฉพาะที่ ซึ่งจะมีการหลั่งสารต่างๆรวมทั้งมีการชุมนุมของเซลล์เม็ดเลือดขาว ทั้งหมดทำให้อสุจิถูกทำลาย หรือคุณภาพด้อยลงมาก
2.มีกระบวนการรบกวนการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว
Read More
เดิมห่วงอนามัยไม่มีสารหรือตัวยาที่จะช่วยออกฤทธิ์ในการคุมกำเนิด ต่อมาในช่วงทศวรรษที่ 70 มีการพัฒนาเอาสารออกฤทธิ์ช่วยคุมกำเนิดใส่ไว้ในห่วงอนามัย ได้อก่ ทองแดง และฮอร์โมนโปรเจสติน
กลไกการคุมกำเนิด
ห่วงอนามัยไม่ได้ยับยั้งการตกไข่ ดังนั้นหญิงผู้ใช้จะมีรอบเดือนเป็นธรรมชาติ ตัวห่วงอนามัยซึ่งอยู่ในโพรงมดลูกสามารถป้องกันได้โดย
1.ป้องกันไม่ให้อสุจิผ่านเข้าไปผสมกับไข่ได้ เนื่องจากสารออกฤทธิ์ เช่น ทองแดงทำปฏิกิริยากับเยื่อบุโพรงมดลูก เกิดเป็นการอักเสบเฉพาะที่ ซึ่งจะมีการหลั่งสารต่างๆรวมทั้งมีการชุมนุมของเซลล์เม็ดเลือดขาว ทั้งหมดทำให้อสุจิถูกทำลาย หรือคุณภาพด้อยลงมาก
2.มีกระบวนการรบกวนการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว
Read More
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)