Christmas gifts:

ถุงยางอนามัยชาย

ถุงยางอนามัยชาย ( male condom )
     
          ถุงยางอนามัยชายเป็นวิธีคุมกำเนิดเดียวที่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ได้ด้วย เรียกว่า ป้องกันแบบทวิ( dual protection )ปัจจุบันถุงยางอนามัยชายทำ latex rubber มีความบางมากและให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ล่าสุดมีการใช้สาร polyurethrane ซึ่งคงทน latex มาทำถุงยางอนามัย
         
          ถุงยางอนามัยชายที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ที่นิยมจะมีก้นถุงเป็นกระเปาะเพื่อเก็บน้ำอสุจิ และไม่มียาฆ่าอสุจิ เคลือบ

          ขนาดของถุงยางอนามัย โดยทั่วไปถุงยางอนามัยที่จำหน่ายในประเทศไทยเป็นขนาดซึ่งเหมาะสำหรับคนเอเชีย มีความกว้าง 49 มม.และยาว 160 มม.ส่วนถุงยางอนามัยขนาดใหญ่มีความกว้าง 52 มม.และยาว 180 มม.



          ความหนาของถุงยางอนามัย โดยทั่วไปถุงยางอนามัยมีความหนาระหว่าง 0.04 - 0.12 มม.แต่ที่ใช้ส่วนมากมีความหนา 0.04 - 0.07 มม. 

ข้อด้อยของถุงยางอนามัย

          ปัญหาที่สำคัญในการใช้ถุงยางอนามัยชายคือ 

          1.ฝ่ายชายมีความรู้สึกสัมผัสน้อยลง
          2.การที่ต้องขัดจังหวะการร่วมเพศเพื่อใส่ถุงยางอนามัย
          3.อาจมีการแพ้ยา หรือสารที่เคลือบบนถุงยางอนามัย แต่พบได้น้อย
          4.ถุงยางอนามัยอาจแตกหรือฉีกขาดได้จากการเสียดสี ระหว่างร่วมเพศ พบได้ร้อยละ 1 - 2

ขั้นตอนในการใช้ถุงยางอนามัยชายอย่างถูกต้อง

          1.เมื่อซื้อถุงยางอนามัย ให้ตรวจสภาพห่อว่า อยู่ในสภาพเรียบร้อย มีตรารับรองของกระทรวงสาธาณสุข ( ในกรณีที่เป็นถุงยางอนามัยที่อยู่ในโครงการวางแผนครอบครัวแห่งชาติ
          2.สวมใส่ถุงยางอนามัยเมื่อองคชาตแข็งตัว ( ถ้ายังไม่แข็งตัวจะใส่ยาก ฝ่ายชายร่วมเพศจะใส่เอง หรือให้ฝ่ายชายใส่ให้ก็ได้ )
          3.ฉีกซองถุงยางอนามัยด้วยมือ ห้ามใช้กรรไกรตัด
          4.หยิบถุงยางอนามัยออกจากซอง ตรวจดูคุณภาพว่า เนื้อยางยังอยู่ในสภาพดี ไม่ร่อนหรือขาดง่าย คลี่ออกยาวประมาณ 1  นิ้ว
          5.สวมถุงยางอนามัยลงบนปลายองคชาต มือข้างไม่ถนัดบีบปลายกระเปาะไว้ตลอดเวลา หรือถ้าไม่มีกระเปาะให้เว้นส่วนปลายไว้ประมาณ 1/2 นิ้ว เพื่อเก็บอสุจิ ใช้มือข้างถนัดรูดถุงยางให้คลุมถึงโคนองคชาตในระหว่างที่รูดยังคงบีบปลายกระเปาะไว้ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปขังอยู่ภายใน และจะแตกได้ในขณะร่วมเพศ ระวังอย่าสวมผิดด้าน ซึ่งทำให้รูดติดขัด
          6.ในกรณีที่ต้องใช้สารหล่อลื่น ห้ามใช้สารที่เป็นน้ำมัน เพราะจะทำให้เนื้อยางเสื่อม ให้ใช้สารหล่อลื่นที่ใช้เฉพาะถุงยางที่มีขายพร้อมกับถุงยาง หรือ K-Y jelly
          7.เมื่อหลั่งน้ำอสุจิแล้ว ให้รีบถอดองคชาตออกจากช่องคลอด ในขณะที่ยังแข็งตัวอยู่ มิฉะนั้นถุงยางอนามัยอาจหลุดคาอยู่ในช่องคลอดได้
          8.ถอดถุงยางอนามัยโดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งต่างๆ ของฝ่ายตรงข้าม อาจใช้กระดาษทิชชู่พันหุ้มรอบปลายและโคนถุงยางแล้วค่อยๆดึงระวังไม่ให้น้ำอสุจิภายในถุงยางหกกระเด็น
          9.สำรวจถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว มีรอยฉีกขาดหรือแตกจากการร่วมเพศหรือไม่ ถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วไม่ควรนำมาใช้อีก 



หน่วยอนามัยการเจริญพันธู์และงานวางแผนครอบครัว
ภาควิชาสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา
คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล

02-4113011  02-4194736-7

0 ความคิดเห็น: